
อ่ะดูตามลูกศรจะเห็นว่าจากสาย Jack สัญญานจะวิ่งเข้าตัว Effect Pedal ตัวแรกซึ่งเป็น Wah Wah ที่จะทำให้เกิดเสียงประมาณ ว๊าวๆ แล้วก็มาต่อที่ Pedal ตัวที่สอง(สีส้ม)ซึ่งเป็น Distortion หรือเสียงแตกซึ่งเป็นการเร่งระ-ดับสัญญานจนทำให้ไม่เสถียรแล้วเกิดเป็นเสียงที่แตกๆน่าฟังขึ้น แล้วตัวต่อไปคือ Foot Volume ซึ่งเอาไว้ควบคุมความดังเบาด้วยการทำหน้าที่เหมือน Gate ที่คอยควบคุมระดับสัญญานที่ไหลผ่าน แล้วต่อมาตัวสีแดงเป็น Whammy Pedal ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวโน๊ตได้ดั่งที่เท้าเราต้องการจะทำ แล้วสัญญานก็จะวิ่งตรงเข้าตู้แอมป์ ซึ่งแอมป์นี้เป็ฯแอมป์ที่ถูกออกแบบให้เป็นรุ่น Signature ของ Steve Vai โดยเฉพาะจึงมีลักษณะรองรับกับอุปกรณืทั้งหมดของเขา แอมป์ตัวนี้มีย่านเสียงต่ำค่อนข้างมากเพราะกีตาร์ของ Steve เป็นกีตาร์ที่มีย่านเสียงต่ำน้อยมากๆ ถ้าเป็นกีตาร์ที่มีย่านเสียงต่ำสูงมากอยู่แล้ว เสียงที่ได้ก็จะกลับบวมจนไม่น่าฟังในทันที แล้วต่อจากนั้นก็จะมีการต่อ Loop สัญ-ญานเข้า Effect Racks ซึ่งในความจริงจะถูกแขวนไว้เป็นหิ้งๆ เพื่อที่จะทำให้สัญญานที่ออกมา ใสชัดเจนมากกว่าแล้วสัญญานก็จะส่งกลับเข้าแอมป์ เพื่อที่จะให้แอมป์ผสมสัญญานในขั้นสุดท้ายก่อนที่จะออกทางลำโพงของตู้แอมป์ แล้วแอมป์จะถูกจ่อไมค์เพื่อที่จะส่งต่อไปยังแผงควบคุมของลำโพงในงานเวทีใหญ่ๆต่อไป